จากข่าวลือที่แสนแปลกประหลาดเกี่ยวกับควันระเหยของ บุหรี่ไฟฟ้า ที่ถูกกล่าวหาว่าเจือด้วยฟอร์มาลดีไฮด์ ไปจนถึงข้อกล่าวหาที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรงที่กล่าวว่า น้ำยาที่ใช้ใน บุหรี่ไฟฟ้า นั้นมีสารต่อต้านการแช่แข็ง อุตสาหกรรมการสูบ บุหรี่ไฟฟ้า มักจะได้รับชื่อเสียงที่ไม่ดีมาเสมอ อันที่จริง การแพร่กระจายของการบิดเบือนข้อมูลในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาทำให้ผู้สูบบุหรี่รายวันจำนวนมากต้องคิดทบทวนการตัดสินใจ เลิกบุหรี่ ด้วยการเปลี่ยนไปใช้ บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งน่าเศร้านัก ที่หลายคนยังคงสูบบุหรี่อยู่ทุกวันอย่างไม่ต้องสงสัย โดยหนึ่งในคำถามที่ถูกถามบ่อยที่สุดจากผู้เริ่มต้นสูบ บุหรี่ไฟฟ้า ก็คือ “การสูบ บุหรี่ไฟฟ้า ทำให้เกิดมะเร็งหรือไม่” เพื่อความชัดเจน มีการศึกษาวิจัยหลายชิ้นที่พิสูจน์ว่าการสูบ บุหรี่ไฟฟ้า นั้นมีสารก่อมะเร็งน้อยกว่าการสูบบุหรี่ถึง 99 เปอร์เซ็นต์
ทราบถึงเรื่องราว บุหรี่ไฟฟ้า
ในการวิจัยเกี่ยวกับการสูบ บุหรี่ไฟฟ้า ในปี 2019 เรื่อง การเปรียบเทียบศักยภาพในการเกิดมะเร็งของการปล่อยสารนิโคตินที่เป็นควัน รวมถึงควันระเหยของ บุหรี่ไฟฟ้า กับควันบุหรี่ (BMJ Tobacco Control) หัวหน้าผู้เขียนงานวิจัย Dr. William E. Stephens เปรียบเทียบระดับสารก่อมะเร็งของควันระเหยของ บุหรี่ไฟฟ้า ควันของบุหรี่ และควันที่ได้จากเทคโนโลยี Heat-not-Burn หลังจากทำการทดสอบหลายพันครั้งโดยใช้อุปกรณ์ต่างๆ หลายร้อยเครื่อง ทีมวิจัยของ Stephens พบว่าอุปกรณ์ บุหรี่ไฟฟ้า ก่อให้เกิดสารก่อมะเร็งน้อยที่สุดในตัวเลือกนี้ โดยมีเพียงกว่าหนึ่งเปอร์เซ็นต์
“ละอองลอยก่อตัวเป็นสเปกตรัมของศักยภาพในการเกิดมะเร็งซึ่งมีขนาดตั้งแต่อากาศที่ไม่ปนเปื้อนไปจนถึงควันบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า ครอบคลุมช่วงส่วนใหญ่โดยมีความเหนือกว่าของผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพ<1% ของควันบุหรี่และลดลงภายในสองลำดับความสำคัญของยาสูดพ่นนิโคตินทางการแพทย์ อย่างไรก็ตาม มีเพียงกลุ่มน้อยที่มีศักยภาพสูงกว่ามาก ผลลัพธ์ที่มีความเสี่ยงสูงเหล่านี้มักจะเกี่ยวข้องกับระดับคาร์บอนิลในระดับสูงที่เกิดขึ้นเมื่อส่งพลังงานที่มากเกินไปไปยังขดลวดของอะตอม”
“ตัวอย่างต้นแบบอุปกรณ์ HNB มีศักยภาพในการเกิดมะเร็งต่ำกว่าควันบุหรี่อย่างน้อยหนึ่งลำดับความสำคัญ แต่มีประสิทธิภาพที่สูงกว่า บุหรี่ไฟฟ้า ส่วนใหญ่”
กล่าวโดยรวมแล้ว บุหรี่ไฟฟ้า นั้น ไม่ได้อันตรายอย่างที่ใครหลายๆคนคิด และโดยอย่างยิ่งในปี 2021 นี้นั้น ก็ยังได้มีผลิตภัณฑ์ทดแทนที่เรียกว่า POD SYSTEM ถูกผลิตออกมาเพื่อเป็นนวัตกรรมทดแทนในการ เลิกบุหรี่ หรือเลิกเสพสารนิโคตินที่มากเกินกับร่างกายตัวเอง โดยผลิตภัณฑ์ตัวนั้น มีชื่อเรียกว่า ผลิตภัณฑ์ Ks Kurve หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Kardinalstick รุ่นที่ 2 นวัตกรรมทดแทนรุ่นใหม่จากทางค่ายแบรนด์ Kardinal ที่เรียกว่า เป็นผลิตภัณฑ์ที่มาแรงที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้ โดย Kskurve นั้น เป็นนวัตกรรมที่ถูกออกแบบมาอย่างมีประสิทธิภาพ ไร้ข้อกังขา ทั้งในเรื่องของตัวผลิตภัณฑ์ และฟีลการสูบที่ดียิ่งขึ้น โดย Ks Kurve นั้น ปลอดภัย หายห่วงต่อผู้ใช้งาน มีฟังค์ชั่นในการใช้งานที่หลากหลาย อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วยนั่นเอง
บทความอื่น ที่คุณอาจสนใจ
- Relx กับปริมาณนิโคตินที่เหมาะสม
- ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับ Kardinal ?
- History of electronic cigarettes Ep.1
- ผลวิจัย บุหรี่ไฟฟ้าช่วยเลิกบุหรี่ดีกว่าหมากฝรั่งหรือแผ่นแปะ
- 5 ของกินช่วย ขับนิโคติน ที่คนสูบบุหรี่ต้องรู้!
- ใช้บุหรี่ไฟฟ้ายังไงให้เลิกบุหรี่ได้จริง
ทางเรายังมีอีก 4 ผลิตภัณฑ์ ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ หรือ บุหรี่ไฟฟ้า ประเภท pod system ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงที่เล็กกะทัดรัด และที่ลวดลายที่หรูหรา ที่สำคัญมีการใช้งานที่ง่ายๆ มาก เพียงแต่นำหัวน้ำยาใส่ก็สามารถสูบได้เลย ในทางกลับกัน บุหรี่ไฟฟ้า ต้องมีการทำลวด ใส่สำลี และหยดน้ำยา ถึงจะสามารถสูบได้ ซึงต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรยุ่งยาก แต่ดีกว่าไหมถ้ามีอุปกรณ์ที่มันสะดวกและดีใช่ไหมล่ะผลิตภัณฑ์ที่เราจะแนะนำนั้นก็คือ “kardinal kurve ( Ks kurve ), Kardinal Stick , RELX และ Relx Infinity ” หากคุณกำลังมองหาวิธีการเลิกบุหรี่ หรือหาสิ่งทดแทน คุณห้ามพลาด 4 ผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน อย่ารอช้าลองเลย
เราขอนำเสนอ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในปี 2021
KARDINAL KURVEPOD หรือ KS KURVE POD
และ เราขอนำเสนอ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในปี 2020
KARDINAL STICK POD
และ เราขอนำเสนอ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในปี 2020
KARDINAL STICK POD
ด้วยความปราถนาดีจาก
: RELX THAILAND
https://relxthailandclub.com/
: KARDINAL STICK THAILAND
https://kardinalthailand.com/
#relx
#relxthailand
#สุขภาพที่ปลอดภัย
#Kwitsmoking
#ksThailand
#kskurve
#kardinalstick
#kardinalkurve
#ks
#kardinalstickth
#เลิกบุหรี่
#นวัตกรรมช่วยเลิกบุหรี่