ยุคสมัยของ POD System เดี๋ยวนี้เขาพัฒนาไปถึงไหนกันแล้ว

ทุกอย่างล้วนมีที่มา “POD System” ก็เช่นกัน เรามาดูกันว่ายุคสมัยตั้งแต่แรกรุ่นของเทคโนโลยีสายสูบจนมาถึง POD System ในปัจจุบัน ตอนนี้มีกี่เจเนอเรชั่นกันแล้ว?

POD System เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดในวงการบุหรี่ไฟฟ้าที่มีขนาดเล็ก ใช้งานง่าย และง่ายต่อการบำรุงรักษา ซึ่งกว่าจะมาเป็นรูปร่างหน้าตาที่เราเห็นในปัจจุบัน ได้ผ่านการพัฒนามาแสนยาวนาน เราไปดูกันว่าต้นกำเนิดเป็นมาอย่างไร

ต้นกำเนิด ของ POD System

แรกเริ่มเดิมที ได้มีการถูกออกแบบคิดค้นเมื่อปี พ.ศ. 2473 ที่ประเทศเยอรมนี และมีการจดสิทธิบัตรเกิดขึ้นรอบแรกโดย โจเซฟ โรบินสัน (Joseph Robinson) บิดาแห่งบุหรี่ไฟฟ้าคนแรก ได้มีการร่างแบบสิ่งประดิษฐ์ที่ใช้ในการพ่นควันโดยไม่ได้เกิดจากการเผาไหม้ แต่ก็ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจริง เนื่องจากเทคโนโลยีในยุคนั้นไม่เอื้ออำนวย

ในปี พ.ศ.2506 บุหรี่ไฟฟ้าได้กลับมาอีกครั้ง และได้มีการประดิษฐ์ขึ้นจริงเป็นครั้งแรก โดย เฮอร์เบิร์ต เอ.กิลเบิร์ต (Herbert A. Gilbert) ภายใต้สโลแกน “Smokeless, Non-tobacco Cigarette” แต่ในช่วงยุคนั้นก็ยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก เนื่องจากยังไม่มีสารนิโคตินในตัวอุปกรณ์ จึงยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการนิโคตินของผู้สูบบุหรี่ได้

ต่อมาในปี พ.ศ. 2546 ได้มีการผลิต บุหรี่ไฟฟ้า ออกมาเพื่อการค้าอย่างจริงจัง โดย ฮอน ลิค (Hon Lik) เภสัชกรชาวจีน ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากพ่อของเขาที่เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ ซึ่งเขาได้ระบุไว้ว่า สาเหตุหลักของการเสียชีวิต 100% ของคนสูบบุหรี่ “เกิดจากควันที่มาจากการเผาไหม้ ไม่ได้เกิดจากนิโคติน” และการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นการสูบนิโคตินที่สะอาด และปลอดภัยกว่า บุหรี่มวนถึง 95%

หลังจากนั้นไม่นาน หลายๆ บริษัทก็หันมาผลิตบุหรี่ไฟฟ้ากันจนเป็นที่นิยมกันไปทั่วโลก แต่บุหรี่ไฟฟ้าของนายฮอน ลิค กลับไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่ แต่การพัฒนาแบบใหม่ก็ไม่ได้ทิ้งเจตจำนงเดิมของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการเป็นตัวช่วยในการ “เลิกบุหรี่”

ประเภทของบุหรี่ไฟฟ้าต่างๆ ก่อนจะมาเป็น POD System

บุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบันตั้งแต่เริ่มมีการจำหน่าย และใช้งานจริง สามารถแบ่งได้ 4 รูปแบบหลักเรียงตามเจเนอเรชั่นคือ Cigalike, eGos, Mods และ Pod ซึ่งจะมีรายละเอียดดังนี้

• Cigalike เป็นแบบบุหรี่ไฟฟ้ารุ่นบุกเบิก และปูทาง ลักษณะรูปทรงมีหน้าตาเหมือนบุหรี่ปกติทุกระเบียดนิ้ว แต่จะมีตัวที่ทำให้เกิดไอ และความร้อนเพิ่มเข้ามา แต่ก็ไม่สามารถทดแทนบุหรี่มวนได้ ทำหน้าที่ได้แค่แก้อยากเพียงนิดหน่อย เพราะนิโคตินต่ำมาก ควันก็น้อยมาก ส่วนน้ำยา Freebase ในยุคนั้นก็มีแค่กลิ่นเดียว และยังถูกใช้งานในวงแคบๆ

• eGos เป็นชื่อรุ่นแบบที่ 2 ของบุหรี่ไฟฟ้า ได้เริ่มมีการพัฒนาเป็นที่รู้จักเป็นวงกว้างมากขึ้น และเริ่มมีน้ำยาหลากหลายกลิ่นมากขึ้น รูปทรงบุหรี่รุ่นนี้มาเป็นแบบแท่ง ที่เรียกกันว่า Vape pen เพราะมีลักษณะเหมือนปากกา มีตัวถังที่สามารถถอดออกได้ และเติมน้ำยาแบบ E-Liquid หรือ E-Juice ที่มีระดับนิโคติน หรือกลิ่นต่างๆ ได้ด้วยตนเอง

• Mods เป็นชื่อเรียกบุหรี่ไฟฟ้าที่แบบ 3 ลักษณะคล้ายบุหรี่ไฟฟ้าแบบ eGos แต่มีขนาดใหญ่กว่า ซึ่ง Mods จะเริ่มมีการแบ่งเป็น 2 แบบ ได้แก่ tube mod หรือ มอทยิงสด ซึ่งเป็นการยิงกระแสไฟฟ้าโดยตรงไม่ผ่านวงจรชิปเซ็ตใดๆ ขึ้นตรงระหว่างอะตอมบุหรี่ไฟฟ้ากับแบตเตอรี่ หรือถ่านเท่านั้น และ box mod กึ่งยิงสดที่เริ่มมีวงจรในการควบคุมการจ่ายไฟ ระดับไอ และความร้อน รวมถึงขนาด และปริมาณของน้ำยา

• Pod System คือรูปแบบของบุหรี่ไฟฟ้าในรุ่นปัจจุบัน มีขนาดเล็ก กำลังวัตต์ต่ำ พกพาสะดวก ใช้งานง่ายขึ้น สามารถผลิตควันได้พอๆ กับบุหรี่จริง ตัวแท้งน้ำยาเป็นแบบ mouth-to-lung (MTL) และจะมีรูลมที่ไม่ใหญ่มาก น้ำยาที่เหมาะกับบุหรี่ไฟฟ้าชนิดนี้จะเป็นน้ำยา Salt Nic ที่มีความเข้มข้นสูง (30-60mg) ฟิวส์สูบจึงคล้ายบุหรี่จริง แต่ได้ปริมาณนิโคตินที่เพียงพอ ซึ่งได้รับความนิยมสูงในกลุ่มคนที่ต้องการเลิกบุหรี่ และใช้ได้จริงกว่ารุ่นก่อนๆ

อย่างไรตาม การที่จะมีสุขภาพที่ดีที่สุด คือการเลิกบุหรี่นั่นแหละ แต่ถ้าวันนี้คุณยังไม่สามารถเลิกกันได้จริงๆ ก็ควรหันมาใช้ทางเลือกในการเลิกบุหรี่ที่ดี ได้ผลจริง เช่น Pod system อย่าง RELX หรือ Kardinal หรือทางเลือกอื่นๆ และมีความปลอดภัยกว่า บุหรี่มวน และควรศึกษาการใช้งานให้ถูกต้อง ได้รับคำแนะนำที่เหมาะสม อย่างน้อยๆ การเลิกบุหรี่ครั้งนี้ หรือครั้งต่อไปของคุณจะได้ไม่รู้สึกเสียเปล่า และทำให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม

ขอบคุณข้อมูลจาก :
https://web.facebook.com/endsthailand
http://www.casaa.org/historical-timeline-of-electronic-cigarettes/
https://www.ecigarettedirect.co.uk/ashtray-blog/2012/05/history-electronic-cigarette.html
https://www.cdc.gov/tobacco/basic_information/e-cigarettes/index.htm

บทความอื่น ที่คุณอาจสนใจ

ทางเรามี 1 ผลิตภัณฑ์ ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงที่เล็กกะทัดรัด และที่ลวดลายที่หรูหรา ที่สำคัญมีการใช้งานที่ง่ายๆ มาก เพียงแต่นำหัวน้ำยาใส่ก็สามารถสูบได้เลย ในทางกลับกัน บุหรี่ไฟฟ้า ต้องมีการทำลวด ใส่สำลี และหยดน้ำยา ถึงจะสามารถสูบได้ ทุกคนอ่านแล้วคิดว่ามันสะดวกและดีใช่ไหมล่ะผลิตภัณฑ์ที่เราจะแนะนำนั้นก็คือ “ RELX ” หากคุณกำลังมองหาวิธีการเลิกบุหรี่ หรือหาสิ่งทดแทน คุณห้ามพลาด RELX สามารถตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน อย่ารอช้าลองเลย